ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 สั่งการห้ามตำรวจพกพาอาวุธปืนเข้าสถานบันเทิงโดยเด็ดขาด ยกเว้นผู้ที่ได้รับอนุญาตพกพาอาวุธปืนเท่านั้น ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้ที่เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ยืนยันทำงานด้วยความโปร่งใส ขอให้มั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการทำคดี ไม่มีมวยล้มแน่นอน
กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. (สืบสวน) พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผบก.ภ.จว.ตรัง พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.สส.ภ.9, พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.เชื้อชาติ เยาดำ ผกก.สภ.เมืองตรัง และ พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.กก.สส.ภ.จว.ตรัง เจ้าหน้าที่ชุดรับมอบตัว
นำโดย พ.ต.ท.อนุสรณ์ ทองไสย รอง ผกก.กก.สส.ภ.จว.ตรัง พ.ต.ต.ขวัญเจริญ ไกรทอง สว.กก.สส.ภ.จว.ตรัง พ.ต.ต.วสันต์ บรรลือพืช สว.สส.สภ.เมืองตรัง พ.ต.ต.สวรรยา เอียดตรง สว.กก.๖ บก.ป. พ.ต.ต.อนิรุทธิ์ ปักษิณศิริ สว.กก.สส.๓ บก.สส.ภ.๙ จนท.ตร.กก.สส.ภ.จว.ตรัง และ จนท.สส.สภ.เมืองตรัง จนท.ตร.กก.๖ บก.ป. และจนท.กก.สส.๓ บก.สส.ภ.9 ร่วมกันรับมอบตัว จ.ส.ต.ชุติพนธ์หรือเบิร์ด นาคแก้ว ผบ.หมู่ (ป) สภ.บ้านหนองเอื้อง ปฏิบัติหน้าที่ชุดศรีตรัง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตรังที่ จ.๓๗๕/๒๕๖๕ ลง ๒๕ ต.ค.๒๕๖๕ ในความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่น พยายามฆ่าผู้อื่น ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์และไม่มีเหตุอันสมควร” สถานที่รับมอบตัว บ้านพักตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ภายในตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ม.12 ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง
ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผบก.ภ.จว.ตรัง พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.สส.ภ.9, พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง ร่วมกันแถลงข่าวการมอบตัวของจ่าเบิร์ด
ซึ่งพล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 กล่าวว่าพฤติการณ์ ตามวันเวลาเกิดเหตุ จ.ส.ต.ชุติพนธ์หรือเบิร์ด นาคแก้ว ได้ใช้อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. ยี่ห้อกล็อค 19 หมายเลขทะเบียน RTP 23380 ตราโล่ (อาวุธปืนของทางราชการ) ยิงเข้าใส่นายจิตรกร คงจันทร์ นายเอกพจน์ เพชรรัตน์ นายพิสิษฐ อภิวันทร์ภักดี เป็นเหตุให้นายจิตรกรฯ ถึงแก่ความตาย นายเอกพจน์ฯ และนายพิสิษฐฯ ได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุ จ.ส.ต.ชุติพนธ์หรือเบิร์ดฯ ได้หลบหนีโดยใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ถูกการ์ดของทางร้านตรวจยึดไว้ได้ โดย จ.ส.ต.ชุติพนธ์หรือเบิรด์ฯ ได้หลบหนีกลับมาที่บ้านพักของตำรวจภูธรจังหวัดตรัง และหายตัวไป
ต่อมา พงส.สภ.เมืองตรัง ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับ จ.ส.ต.ชุติพนธ์หรือเบิร์ดฯ ไว้ ในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าฯ หลังจากนั้นในวันที่ 25 ต.ค.65 ช่วงดึก จ.ส.ต.ชุติพนธ์หรือเบิร์ดฯ ได้เดินทางกลับมาที่บ้านพักตำรวจภูธรจังหวัดตรัง เพื่อพบมารดา ต่อมามารดาได้ประสานกับญาติที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 8 เพื่อให้ประสานไปยัง พ.ต.ต.ขวัญเจริญ ไกรทอง สว.กก.สส.ภ.จว.ตรัง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของ จ.ส.ต.ชุติพนธ์ฯ เพื่อขอเข้ามอบตัว โดยนัดหมายมอบตัวกันที่บ้านพักของตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ในวันที่ 26 ต.ค.65 เวลาช่วงเช้า สอบถามรับว่าได้ก่อเหตุจริง และนำตรวจยึดอาวุธปืนยาวพร้อมเสื้อเกราะของทางราชการที่ตนซุกซ่อนไว้บริเวณหลังบ้านพัก ก่อนที่จะหลบหนีไปที่บ้านร้าง
พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กล่าวว่า ได้สั่งการห้ามตำรวจพกพาอาวุธปืนเข้าสถานบันเทิงโดยเด็ดขาด ยกเว้นผู้ที่ได้รับอนุญาตพกพาอาวุธปืนเท่านั้น ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้ที่เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ยืนยันทำงานด้วยความโปร่งใส ขอให้มั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการทำคดี ไม่มีมวยล้มแน่นอน โยจ่าเบิร์ดยอมรับผิดทุกข้อกล่าวหา เมื่อสอบสวนเสร็จจะนำตัวส่งศาลเพื่อฝากขังต่อไป ในขณะที่ญาติๆของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บได้เดินทางมากว่า 20 คน เพื่อพบกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 มีท่าทีพอใจกับการทำงานของเจ้าหน้าที่